ilikemassage.com

โบรกแนะเลือกซื้อ 17 บจ.อนาคตรุ่ง


 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 10.05 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.72/79 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่แดนบวกและลบ ส่วนดัชนีหุ้นไทยล่าสุดปรับตัวขึ้นไป 10.96 จุด อยู่ที่ 1, 571.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.4 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ เน้นกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์และประกันภัย ขนส่ง กลุ่มเช่าซื้อ สื่อสาร เลือกซื้อ 17 หุ้น ได้แก่ LHBANK , PJW ,DRT, STEC, JAS, MINT, ERW, LOXLEY, TK, MALEE, SAT, EMC, ANAN, AIT, THAI DCC และ BGH

 

KGI ประเมิน SET วันศุกร์แกว่งกรอบจำกัด คล้ายเมื่อวาน ปัจจัยบวกยังอยู่แต่ราคาหุ้นตอบสนองน้อยลง สหรัฐฯ แจ้งผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าคาด และสภาล่างสหรัฐฯ ผ่านงบฯ รายจ่ายเพื่อใช้ถึงเดือน ก.ย. (วุฒิสภาพิจารณาสัปดาห์หน้า) ส่วนยุโรปและอังกฤษตรึงดอกเบี้ยตามคาด แต่ยุโรปปรับลด GDP และเงินเฟ้อปีนี้ซึ่งเป็นสัญญาณว่ายุโรปจะลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ส่วนในคืนนี้ให้ติดตามสหรัฐฯ แจ้งตัวเลขจ้างงานรวมเดือน ก.พ. (ตลาดคาดจะเพิ่ม 1.65 แสนตำแหน่ง) ส่วนสัปดาห์หน้าติดตาม i) วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านงบประมาณ ii) อิตาลีต้องหาทางออกตั้งรัฐบาลภายใน 15 มี.ค. ล่าสุดอาจต้องตั้งคนนอกมาทำชั่วคราว ด้านทุนต่างชาติจะยังชะลอ เช่นเดียวกับกองทุนไทยซึ่งอาจมีแรงขายจาก Trigger funds หากดัชนีฯ ขึ้นไปต่อ

กลยุทธ์: เน้นหุ้นเล็กมีประเด็นเฉพาะ ซื้อ STEC, JAS*, MINT*, ERW, LOXLEY // ส่วน ITD แนะเลี่ยงช่วงสั้นหลังแนวโน้มจะติด cash balance

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

ซื้อ EMC, ANAN เก็งกำไร AIT, LOXLEY

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังอยู่ในกรอบเดิม 1550-1565 กลยุทธ์การลงทุน: Selective trading คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะยังเทรดอยู่ในกรอบเดิมระหว่าง 1550-1565 จุด ขณะที่บรรยากาศลงทุนทางบวกจากตลาดสหรัฐ (ดาวโจนส์) ที่เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ หลังข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงมากกว่าคาดยังช่วยหนุนบรรยากาศลงทุน ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในวันนี้ อย่างไรก็ดี การแกว่งตัวของ SET หลังทำสถิติสูงสุดในรอบ 19 ปี ยังออกอาการกล้าๆ กลัวๆ และดูเหมือนแท่งเทียนทางเทคนิคที่เกิดเป็น Tri-star Top

บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการปรับฐานที่จะมีตามมาได้

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวต่อได้ แต่หากหลุดระดับ 1550 อาจต้องระวังมากขึ้น และวางจุดถอยแถว 1540 แนวต้าน: 1565, 1570 แนวรับ: 1555, 1545

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 75%: เงินสด 25%

ถือต่อในพอร์ต : SCB, TKT, NTV, THAI, LH

หุ้นที่ปรับออก: CPF ตัดขาดทุน (~4.48%)

หุ้นที่แนะนำ : DRT ดีตามยอดจองบ้าน+คาดปันผล 0.48 บาท คิดเป็น Yield ราว 6% รอทำกำไรแถว 9 บาท ตัดขาดทุนที่ 8.35 บาท

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ โลกสงบสุข...แกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย แม้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ แต่ตลาดโดยรวมแกว่งตัวขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก และการที่ S&P ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของโปรตุเกสขึ้นสู่ระดับ "มีเสถียรภาพ" (จากเดิม "เชิงลบ”) ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ทั้งนี้โลกยังคงอยู่ในภาวะ “ข่าวร้ายชัดๆไม่มี ข่าวดีชัดเจนไม่ปรากฏ” ซึ่งทำให้หุ้นยังน่าจะอยู่ในภาวะแกว่งตัว (sideways) รอปัจจัยใหม่ไปอีกระยะ

ปัจจัยอื่นๆ/ GDP ญี่ปุ่น – เช้านี้รายงาน GDP 4Q55 เพิ่มขึ้น 0.2% ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะ -0.4% มาก ทำให้ NIKKEI อาจฟื้นเด่นกว่าประเทศอื่น / ERW – เตรียมออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (ERWPF) พบนักวิเคราะห์วันนี้และเสนอขาย 15-22 มี.ค. 10.40 บาทต่อหน่วย/ กลุ่มโมเมนตัมของผลการดำเนินงานเร่งตัวขึ้น – ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และประกันภัย (ส่งออกเร่งขึ้นและฟื้นตัวจากน้ำท่วม) ขนส่ง (ฟื้นตัวตามกิจกรรมเศรษฐกิจ ชอบ AAV TTA) / ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนก.พ. – อยู่ที่ 74.3 (จากม.ค. 72.1) เพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสูงสุดในรอบ 19 เดือน หนุนจิตวิทยาการลงทุนหุ้นบริโภคในประเทศ ได้แก่ กลุ่มเช่าซื้อ (ชอบ TK)

สื่อสาร (ชอบ ADVANC DTAC TRUE INTUCH) เป็นต้น/ จีน – จะเปิดเผยข้อมูลการค้า (8 มี.ค.) ในขณะที่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเงินเฟ้อ (9 มี.ค.)ซึ่งอาจส่งจิตวิทยาเชิงลบจากเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งขึ้นได้

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index เริ่มเข้าสู่โซนที่เสี่ยงต่อแรงขายทำกำไรระยะสั้นในกรอบ 1560-1570 (หรือสูงกว่า) ดังนั้นเพิ่มความระมัดระวังและซื้อในเชิงตั้งรับสำหรับเงินใหม่หรือคนไม่มีหุ้น เลือกหุ้นที่ยังถูกโดยเปรียบเทียบ ปรับขึ้นน้อยกว่าตลาดรวม หรือผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัว (turnaround) ที่ชัดเจน หุ้นแนะนำ TK MALEE SAT

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (เมื่อ 22 ก.พ.) ขอเสี่ยงลดน้ำหนักการลงทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ลง 10% (ปัจจุบันเหลือ 70%) ซึ่งในส่วนของการซื้อต่อยอดสะสมระยะกลาง ขอเน้นเลือกซื้อใน ADVANC PTT CPF KBS TICON AP KTB CCET KCE TTA MAJOR STANLY

บล.ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ SET ยังชะลอตัวบริเวณ 1560 จุด ขณะที่ ผลประชุมธนาคารกลาง ทั้ง BOE และ ECB สร้างความผิดหวังเล็กน้อย อาจกดดันให้ดัชนีปรับลงระยะสั้น ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม ขณะที่ภาพโดยรวม ยังมอง SET ปรับขึ้นต่อเนื่อง แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1580 และ 1600 จุด ด้วยอานิสงส์ สภาพคล่องที่ยังล้นระบบ จากธนาคารกลางหลายประเทศ ยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยเฉพาะ BOJ ในเดือนเม.ย. รวมถึง ปัจจัยภายในประเทศ การผ่านพรบ. เงินกู้ เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล มูลค่า 2 ล้านล้านบาท เรามองหุ้นกลุ่มใหญ่อย่างแบงก์ จะได้รับประโยชน์และผลักดัน SET ปรับขึ้นต่อ กลยุทธ์การลงทุน ทยอยสะสมหุ้น โดยเฉพาะเมื่ออ่อนตัว ขณะที่ หุ้นแนะนำในวันนี้ ได้แก่ THAI DCC และ BGH

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ยังแนะนำเน้นเป็นเทรดดิ้ง ดังนั้นควรทำกำไรช่วงบวก เพื่อรอซื้อช่วงลบ...

กลยุทธ์ : เนื่องจากเราคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะยังแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง จากแรงขายกดดันที่ยังมีออกมาอยู่ ทำให้ยังแนะนำให้เน้นเป็นเทรดดิ้งสั้นตามรอบไว้ก่อน โดยควรมองหาจังหวะแบ่งส่วนขายทำกำไรในช่วงบวกด้วย เพื่อรอจังหวะในการกลับเข้าเลือกหุ้นซื้อใหม่เมื่อตลาดปรับพักตัวลงอีกครั้งน่าจะปลอดภัยกว่า

หุ้นเด่นทางเทคนิค LHBANK , PJW , BECL (SBL)

แนวโน้ม ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดบวกขึ้นสู่ระดับสูงสุดต่อเนื่อง หลังข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเกินคาดยังบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันนี้ แต่นักลงทุนยังไม่มั่นใจมากนักว่าตัวเลขดังกล่าวจะออกมาดีกว่าคาดเช่นเดียวกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนหรือไม่ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปไม่มีข่าวหนุนมากนัก หลังที่ประชุม ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณที่แสดงถึงแนวโน้มในการที่จะมีมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีกในช่วงนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังเปิดทำการด้วยการแกว่งบวก-ลบแคบๆ เพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอีกครั้ง ซึ่ง SET เมื่อวานนี้ถึงแม้จะปิดเป็นบวกได้ แต่ก็อยู่ในลักษณะแกว่งตัวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยกรอบการแกว่งก็เริ่มบีบแคบมากขึ้นกว่าวันก่อนหน้าด้วย ซึ่งน่าจะมาจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มมีออกมากดดันอีกครั้ง ดังนั้นโอกาสที่ SET จะเริ่มแกว่งปรับพักตัวลงให้เห็นอีกยังมีความเป็นไปได้อยู่ แนวรับ 1556-1546 , 1540-1538 จุด แนวต้าน 1562-1563 , 1570-1575 จุด

ขอขอบคุณ www.kaohoon.com

ตั้งเมื่อ 10-03-2013