ilikemassage.com

โบรกแนะเลือกซื้อ 13 บจ.อนาคตรุ่งดัชนีแกว่งตัวในกรอบ เน้นหุ้น Defensive Play ยังวิ่งน้อย



 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.59 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 29.72/75 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดวันนี้หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ เน้นหุ้น Defensive Play ปันผลเด่น เก็งกำไร 13 หุ้นเด่น ได้แก่ ADVANC, CFRESH, QH, TRUE, STEC, ITD, JAS, LOXLEY, HMPRO, MINT, BCH, BLAND และ GUNKUL

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ดัชนีทรงตัวหลังพุ่งแรงเกินคาด ส่วนเดือน มี.ค. ยังมองหุ้นเล็กเด่นกว่า โดย KGI ประเมิน SET วันศุกร์แกว่งตัว หลังเมื่อวานวิ่งแรงเกินคาดมาก ด้วยแรงซื้อจากทั้งต่างชาติและสถาบันไทย อย่างไรก็ดี KGI คงมุมมองว่าในเดือน มี.ค. ทุนต่างชาติจะไม่ต่อเนี่อง และอาจมีช่วงขายหุ้นออกด้วยความไม่แน่นอนภายนอกประเทศ เช่นผลทางเศรษฐกิจจากการลดรายจ่ายรัฐบาล

สหรัฐฯ เริ่มวันนี้ (1 มี.ค.) การเจรจาปัญหาเพดานหนี้ รวมทั้งการเมืองอิตาลียังไม่มีทางออก ด้านสถาบันไทยคงมีการเก็บหุ้นเพื่อกองทุน Trigger เมื่อวานนี้ กลยุทธ์: ไม่ควรตามแรงผลักขึ้นในหุ้นใหญ่ๆ เมื่อวานนี้สำหรับหุ้นเด่นเดือน มี.ค. เน้นกลุ่มรับเหมา (พรบ. กู้เงิน 2 ล้านล้านน่าจะเข้าสู่สภาภายใน เม.ย.) กลุ่มรับเหมาวางระบบโทรคมนาคม กลุ่มการบริโภค และหุ้นพลังงานทางเลือก แนะซื้อ STEC, ITD, JAS*, LOXLEY, HMPRO*, MINT*, BCH, BLAND และ GUNKUL ส่วนหุ้นซื้อเล่นสั้นให้อ่านย่อหน้าถัดไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

ซื้อ QH* เก็งกำไร TTCL, TRUE*

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

-ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: AIT, SRICHA, DCC, ROJNA, SUSCO, TIES, BTS*, ANAN, BGH*,

TMT, HMPRO*, DCON, TKS, SAMTEL, TISCO*, GUNKUL, BCH, BLA*, BCP*, JAS*, GL,JMART, AP

-เก็งกำไรสั้นต่อได้: STEC, PTT*, STPI, SIM, THAI*, TOP*, LOXLEY, LH*, AI (ราคาชนเป้าหมาย 11 บาทของเราแล้ว ปล่อย Let profit run เป้าสูงสุด Consensus ตอนนี้ 13 บาท)

บล.กสิกรไทย ระบุว่า แม้ตลาดวานนี้ดีกว่าคาด...แต่เรายังคงมุมมองระมัดระวัง แนวโน้มตลาด: ตลาดโลกโดยรวมไม่มีปัจจัยใหม่ ยังคงเป็นประเด็นฟื้นตัวหลัง

คลายกังวลการหยุดใช้มาตรการ QE และตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว (แม้ว่าอาจฟื้นน้อยหรือมากกว่าคาดไปบ้าง) ด้านตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ตามการฟื้นตัวของหุ้นต่างประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการฟื้นตัวที่แรงกว่าที่เราและตลาดคาดอย่างมาก แรงซื้อส่วนใหญ่เข้ามาในหุ้นกลุ่มที่ Underperform ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม สื่อสาร พลังงาน ธนาคาร เป็นหลัก ในขณะที่เริ่มเห็นแรงขายในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ Outperform ตลาดมาก

ดังนั้นโดยรวมเราสรุปว่าส่วนใหญ่ยังเป็นการซื้อขายเพื่อปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน เพื่อรับมือความผันผวนระยะสั้นที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆในอีกไม่นานนี้ ในขณะที่แรงซื้อสุทธิต่างชาติที่เข้ามา เรายังขอติดตามก่อนประเมินและปรับคำแนะนำให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง //ปัจจัยอื่นๆ/ อสังหาริมทรัพย์ - ในระยะสั้นให้เพิ่มความระวังแรงขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังช่วงสั้นส่วนใหญ่จะหมดข่าวดีหนุนหลังรายงานกำไร 4Q55 ที่น่าประทับใจไปแล้ว (กำไร 1Q56 จะ soft ลงจากไตรมาสก่อนหน้าเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น MK) / China PMI - เช้านี้ดัชนีจีนรายงาน PMI ก.พ.ที่ 50.1 ลดลงจากเดือนก่อน 50.4 แม้ชี้ว่าเศรษฐกิจยังขยายตัว แต่อาจกระทบจิตวิทยาระยะสั้นโดยเฉพาะในหุ้นโภคภัณฑ์ (แนะนำทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัว)

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ฟื้นตัวจาก 1518 ตามที่คาด แต่ที่เกินคาด คือการดีดตัววันเดียวถึง 23 จุด (1.55%) และแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติ 3.8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อประเมินจากความผันผวนระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้น (การลดงบสหรัฐฯ และการเมืองยุโรป) จึงยังขอคงมุมมองระมัดระวัง เก็งกำไรช่วงสั้นเน้นหุ้นที่มีปันผลสูง และมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการขึ้น หุ้นแนะนำ ADVANC CFRESH TRUE

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (เมื่อ 22 ก.พ.) ขอเสี่ยงลดน้ำหนักการลงทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ลง 10% (ปัจจุบันเหลือ 70%) ซึ่งในส่วนของการซื้อต่อยอดสะสมระยะกลาง ขอเน้นเลือกซื้อใน ADVANC PTT CPF KBS TICON AP KTB CCET KCE TTA MAJOR STANLY

บล.ไทยพาณิชย์ ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ เราคาด SET พร้อมขึ้นต่อ โดยเป้าหมายอยู่ที่ 1560 และ 1580 จุด จาก 1) สภาพคล่องส่วนเกินที่ยังคงอยู่ และตลาดไทยยังน่าดึงดูด เมื่อเทียบกับภูมิภาค 2) ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี คาดในที่สุดจะประนีประนอมกันได้ เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ 3) การตัดลดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ ที่มีผลในวันนี้ เราคาดยังไม่มีข้อสรุปใดๆ และตลาดอาจยังไม่ให้น้ำหนักมากนัก โดยเส้นตายของจริง อยู่ในวันที่ 27 มี.ค. นี้ ซึ่ง หากสภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ไม่ทันตามกำหนด รัฐบาลสหรัฐจะทำงานไม่ได้ กลยุทธ์การลงทุน จาก SET ยังผันผวนในขาขึ้น ทำให้เรายังแนะนำหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยโดดเด่น ซึ่งในมี.ค. แนะนำ DCC KTB MAJOR SVI THAI THCOM และ THRE

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: Sideways ในกรอบ 1530-1547 กลยุทธ์การลงทุน: Selective trading

วานนี้หุ้นไทยดีดกลับแรงมาก ด้วยแรงซื้อของต่างชาติที่กลับมากว่า 3.8 พันล้านบาท และถือสถานะด้านซื้อสุทธิในตลาดอนุพันธ์ 1.4 พันสัญญา จึงน่าจะเป็นบวกต่อตลาดวันนี้ต่อ อย่างไรก็ดี คาดตลาดยังไม่กล้าขยับไปไกล และอาจปรับตัวลงในทางตรงกันข้าม ความผันผวนระหว่างทางจะมีมาก เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนของปัจจัยเรื่องการตัดลดงบประมาณของสหรัฐ โดยกำลังจะมีการเจรจากันในวันนี้ แต่กลับมีการคาดการณ์ในระดับต่ำว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดในกรณีนั้นขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดมากตามมา ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟระบุว่ามีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลก หากการปรับลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้แล้ว ตัวเลข PMI เดือนก.พ.ของจีนที่ออกมา 50.1 ต่ำกว่าคาดอาจส่งผลเชิงลบต่อตลาด มองกรอบเคลื่อนไหวระหว่าง 1530-1547 จุด

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น: เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวต่อได้ หลังดัชนีดีดกลับพร้อมแรงซื้อต่างชาติหนุน แต่ความไม่แน่นอนยังมาก จึงต้องระมัดระวังการเก็งกำไรมากขึ้น ยังคงความพร้อมขยับพอร์ตกลับลงมาที่ 50% หากหลุด 1524 จุด แนวต้าน : 1547, 1558 แนวรับ : 1532, 1526

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 75% : เงินสด 25%

ถือต่อในพอร์ต : INTUCH, SCB, CPF, TKT, NTV

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ยังเน้นเป็นเทรดดิ้ง ดังนั้นน่าแบ่งขายช่วงบวก แล้วรออ่อนตัวค่อยเลือกซื้อ !!

กลยุทธ์ : ช่วงนี้ยังเน้นเป็นเทรดดิ้งสั้นตามรอบ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้มองหาจังหวะแบ่งส่วนขายทำกำไรช่วงบวกด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการแกว่งตัวผันผวนของตลาด และเพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการลดงบประมาณของสหรัฐด้วย

หุ้นเด่นทางเทคนิค TMI , FOCUS , TPIPL(SBL)

แนวโน้ม ช่วงบ่ายวานนี้ SET ดีดขึ้นได้ดีตามภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ขยับเป็นบวกกันกว่า 1% ซึ่งแรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างประเทศและกลุ่มสถาบันในประเทศด้วย ทำให้บรรยากาศการลงทุนในบ้านเรากลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเช้านี้บรรยากาศด้านต่างประเทศอาจไม่สนับสนุนมากนัก เนื่องจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2012 ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ขณะเดียวกันยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความพยายามที่จะระงับการปรับลดงบประมาณอัตโนมัติของสหรัฐที่จะเริ่มมีผลในวันนี้ (1 มี.ค.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวผันผวนมีทั้งบวกและลบอยู่ รวมทั้งเป็นช่วงท้ายของการประกาศผลการดำเนินงานของ บจ. ในบ้านเราด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนได้เลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรทั้งผลประกอบการที่ประกาศ รวมถึงการจ่ายปันผลไปพอควรแล้ว ทำให้อาจจะเริ่มมีแรงขายทำกำไรในลักษณะ sell on fact ออกมากดดันได้

ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนได้ ช่วงนี้เราจึงยังแนะนำเพียงการเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งตามรอบ..จังหวะบวกจึงยังควรแบ่งส่วนทำกำไร แนวรับ 1538 , 1532-1528 จุด แนวต้าน 1543-1547 , 1555-1560 จุด

ตั้งเมื่อ 01-03-2013

ขอขอบคุณ แหล่งที่มา www. kaohoon.com